การจัดอันดับประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชีย ปี 2025

การตัดสินว่าประเทศใดยากจนที่สุดในเอเชียมักจะอ้างอิงจากหลายปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งรวมถึง:

  1. ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP): ข้อมูลเกี่ยวกับ GDP ต่อหัวประชากรมักจะถูกนำมาใช้เพื่อเปรียบเทียบความมั่งคั่งหรือความยากจนของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ GDP ต่อหัวประชากรที่ปรับค่าตามความสามารถในการซื้อ (PPP) จะเป็นตัวบ่งชี้ที่แม่นยำมากขึ้น
  2. อัตราความยากจน: ข้อมูลเกี่ยวกับสัดส่วนของประชากรที่อยู่ใต้เส้นความยากจน ซึ่งมักจะกำหนดเป็นรายได้ต่อวันที่ต่ำกว่า $1.90 ต่อวัน (ตามเกณฑ์ของธนาคารโลก)
  3. ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (HDI): ดัชนีนี้ประกอบด้วยการวัดความสำเร็จในสามด้านหลัก ได้แก่ อายุขัยเฉลี่ย การศึกษา และมาตรฐานการครองชีพ (รายได้ต่อหัว)
  4. อัตราการว่างงาน: ข้อมูลเกี่ยวกับสัดส่วนของประชากรที่ไม่ได้ทำงานหรือต้องการทำงานแต่หางานไม่ได้
  5. โครงสร้างพื้นฐานและการเข้าถึงบริการพื้นฐาน: ความสามารถในการเข้าถึงบริการพื้นฐาน เช่น การศึกษา การแพทย์ น้ำสะอาด และไฟฟ้า
  6. ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ข้อมูลเกี่ยวกับการกระจายรายได้ภายในประเทศ ซึ่งมักจะวัดด้วยดัชนี Gini
  7. อัตราเงินเฟ้อ: อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีผลต่อความสามารถในการซื้อของประชากร
  8. หนี้สาธารณะ: ระดับหนี้สาธารณะของประเทศเมื่อเปรียบเทียบกับ GDP

 

ข้อมูล    เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก     เหล่านี้มักจะถูกเก็บรวบรวมและรายงานโดยองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ธนาคารโลก (World Bank), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), องค์การสหประชาชาติ (UN), และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ในปี 2024 ประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชียตามรายได้ประชาชาติต่อหัว (GNI per capita) มีดังนี้:

  1. อัฟกานิสถาน – : ประเทศที่เผชิญกับความขัดแย้งและความไม่มั่นคงทางการเมืองเป็นเวลาหลายปี ทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
  2. เยเมน: สงครามกลางเมืองและการขาดแคลนทรัพยากรพื้นฐานทำให้เยเมนตกอยู่ในสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และมีอัตราการเสียชีวิตของทารกสูง
  3. ทาจิกิสถาน: ประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรและมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าหลัง ทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถเติบโตได้อย่างที่ควร
  4. คีร์กีซสถาน: เผชิญกับปัญหาการคอร์รัปชั่นและการจัดการทรัพยากรที่ไม่ดี ทำให้ประชากรจำนวนมากอยู่ใต้เส้นความยากจน
  5. เนปาล: แม้จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีปัญหาการพัฒนาที่ไม่สมดุลและการทุจริตทางการเมือง
  6. พม่า (เมียนมาร์): เผชิญกับความขัดแย้งภายในและการจัดการทรัพยากรที่ไม่ดี ทำให้ประชาชนหลายคนยังคงมีชีวิตที่ยากจน
  7. ปากีสถาน: มีปัญหาทางการเมืองและการทุจริต ทำให้เศรษฐกิจไม่สามารถเติบโตได้ตามที่ควร
  8. กัมพูชา: มีปัญหาการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกันและการทุจริตทางการเมือง ทำให้หลายคนยังคงมีชีวิตที่ยากจน
  9. อุซเบกิสถาน: เศรษฐกิจที่ยังคงเผชิญกับปัญหาคอร์รัปชั่นและการปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่ไม่เพียงพอ
  10. ซีเรีย: สงครามกลางเมืองและการขาดแคลนทรัพยากรพื้นฐานทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

ประเทศเหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมที่ซับซ้อน ซึ่งทำให้พวกเขายังไม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่.

Proudly powered by WordPress | Theme: Nomad Blog by Crimson Themes.